05 สิงหาคม 2557

ประติมากรรมสมัยสุโขทัย

                                                          ประติมากรรมสมัยสุโขทัย
                   หลักฐานทางด้านประติมากรรมก่อนสมัยสุโขทัย นอกจากพระพุทธรูปทรงเครื่องแบบลพบุรี มีขนาดเล็ก หล่อด้วยสำริด จากวัดพระพายหลวงแล้ว ที่ศาลตาผาแดงได้พบประวัติมากรรมลอยตัว สลักจากหินทราย เป็นรูปเทวดา เทวนารี จำนวน 6 รูป มีทั้งขนาดเท่าคนและเล็กกว่า ทั้งหมดล้วนชำรุด เศียรและกรหักหาย ลวดลายสลักในส่วนของเครื่องประดับ เช่น กรองศอ เข็มขัด มีพู่ห้อย ตลอดจนการนุ่งผ้า ชักชายผ้ายาว เทียบได้กับศิลปะขอมแบบนครวัด โดยสืบต่อมาในศิลปะแบบบายนพระพุทธรูปแตกต่างจากพระพุทธรูปทรงเครื่องของฝ่ายมหายาน พระพุทธรูปในศิลปะสมัยสุโขทัยตามแบบแผนของชาวพุทธศาสนาฝ่ายเถรวาท ถ่ายทอดผ่านรูปทรงอันเกิดจากสัดส่วน เส้นนอก และปริมาตรซึ่งประสานกลมกลืนกันอย่างเรียบง่าย

                 นักวิชาการได้แบ่งลักษณะของพระพุทธรูปสมัยสุโขทัยออกเป็น หมวดวัดตะกวนหมวดใหญ่ หมวดพระพุทธชินราช และหมวดกำแพงเพชร อนึ่งความเชื่อในศาสนาฮินดูมีอยู่ด้วยแต่เป็นส่วนน้อย ปะปนกับพุทธศาสนาได้ปรากฏอยู่ที่การสร้างเทวรูป เช่น พระนารายณ์  พระพรหม พระอิศวร ด้วยสุนทรีภาพไม่แตกต่างจากพระพุทธรูปช่วงของพัฒนาการ ราว พ.ศ. 2508  ภายในปราสาทแบบขอองค์กลางของวัดพระพายหลวง นักโบราณคดีได้พบพระพุทธรูปปั้นซึ่งเปื่อยยุ่ยจนรักษาไว้ไม่ได้ พระอุระของพระพุทธรูปองค์นี้บรรจุชิ้นส่วนของพระพุทธรูปปูนปั้น เจ้าหน้าที่ของกรมศิลปากรประกอบชิ้นส่วนดังกล่าว ได้เป็นพระพุทธรูปขนาดย่อมเพียงครึ่งท่อนบน ทรงครองจีวรเฉียงเปิดอังสาขวา บนพระอังสาซ้ายมีชายจีวรสั้นพาดอยู่ ชายจีวรหยักแยกสองแฉกคล้ายเขี้ยวตะขาบหักหลุดไปบางส่วน เม็ดพระศกค่อนข้างเล็ก อุษณีษะหรือกะโหลกเศียรที่โป่งนูน อันเป็นหนึ่งในลักษณะมหาบุรุษ รัศมีที่หักหายคงเป็นทรงดอกบัวตูม พระพักตร์กลม พระนลาฏค่อนข้างกว้าง แนวเม็ดพระศกหย่อนเล็กน้อยที่กลางพระนลาฏ พระขนงโก่ง หัวพระขนงไม่ชัดกัน พระเนตรหรี่ลงต่ำ พระนาสิกโด่ง แต่ค่อนข้างสั้น พระโอษฐ์อิ่ม พระหนุ(คาง) เป็นปมลักษณะดังกล่าวควรเป็นพระพุทธรูประยะแรกของศิลปะสุโขทัย ในครึ่งแรกของพระพุทธศตวรรษที่ 19 สอดคล้องกับกำหนดอายุจากหลักฐานการขุดแต่งอีกครั้งของกรมศิลปากร ระหว่าง พ.ศ. 2528 – 2529 ที่เจดีย์สี่เหลี่ยมซึ่งอยู่ทางด้านหน้าของวัดนี้ วัตถุปูนปั้นที่ได้พบจากการขุดแต่งในบริเวณเจดีย์สี่เหลี่ยมองค์นี้ ได้แก่ เศียรพระพุทธรูป หลายเศียรอยู่ในกลุ่มพระพักตร์กลมรวมทั้งเศียรพระสงฆ์สาวกและเทวดาที่ได้พบอยู่ด้วยกัน แสดงถึงงานสร้างระยะแรกเช่นกัน  ต่อมางานปูนปั้นเหล่านี้ถูกนำมารวมกันในการบูรณะคราวหนึ่งในสมัยสุโขทัยโดยเรียงรวมกันไว้อย่างเป็นระเบียบทางด้านตะวันออกของเจดีย์ก่อนที่จะก็เป็นฐานชุกชีครอบไว้   และสร้างพระพุทธรูปไว้บนฐานชุกชีนั้น  ปัจจุบันนั้นชำรุดไปหมดแล้ว ลักษณะของพระพุทธรูประยะแรกของสุโขทัย เรียกกันมาก่อนว่า หมวดวัดตระกวน เพราะได้พบที่คล้ายคลึงเป็นครั้งแรกที่วัดตะกวน สุโขทัย การเปรียบเทียบพระพุทธรูปแบบนี้กับพระพุทธรูปแบบเชียงแสนรุ่นแรกของแคว้นล้านนา รวมครึ่งแรกของพุทธศตวรรษที่ 19  พบว่ามีส่วนคล้ายคลึงกัน แหล่งบันดาลใจจากเมืองมอญ พม่า โดยเฉพาะในช่วงปลายสมัยพุกาม ย่อมเป็นต้นเค้าให้แก่แบบอย่างระยะแรกทั้งศิลปะของแคว้นล้านนาและสุโขทัย พระพุทธรูปแบบเชียงแสนรุ่นแรกของแคว้นล้านนาส่วนมากหล่อจากสำริด ขณะที่พระพุทธรูปรุ่นแรกของสุโขทัยเป็นงานปูนปั้น อาจใช้เป็นหลักฐานสนับสนุนความคิดที่ว่า งานหล่อสำริดของแคว้นล้านนาเจริญขึ้นก่อน เมื่อล่วงเข้าสู่ครึ่งหลังของพุทธศตวรรษที่ 19 งานหล่อสำริดในศิลปะสุโขทัย จึงเจริญขึ้นอย่างรวดเร็ว มีการหล่อพระพุทธรูปสำริดจำนวนมาก คุณภาพของงานหล่อควบคู่กับความสมบูรณ์ทางรูปแบบศิลปะ ได้บรรลุถึงความงามอย่างอุดมคติของพระพุทธรูปหมวดใหญ่ในศิลปะสุโขทัย
 แต่ก่อนจะพัฒนามาเป็นลักษณะของพระพุทธรูปหมวดใหญ่ แนวโน้มการคลี่คลายเชื่อว่าปรากฏอยู่ในพระพุทธรูปที่เจดีย์วัดช้างล้อม ศรีสัชนาลัย บรรดาพระพุทธรูปปูนปั้นที่ชุดรุดของ เจดีย์องค์นี้ประดิษฐานอยู่ในจระนำห้าช่อง เรียงรายที่แต่ละด้านของฐานสี่เหลี่ยมเหนือลานประทักษิณ องค์ที่เหลือสมบูรณ์ที่สุดเก็บรักษาอยู่ในพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ รามคำแหง พระพุทธรูปเหล่านั้นประทับขัดสมาธิราบ พระหัตถ์ทั้งสองแสดงปางมารวิชัย ทรงครองจีวรห่มเฉียงเปิดพระอังสาขวา ชายจีวรยาวพาดเหนือพระอังสาซ้าย โดยจีบทบเป็นริ้ว พระพักตร์คลี่คลายจากลักษณะกลมบ้างแล้ว เม็ดพระศกเล็ก พระนลาฏยังค่อนข้างกว้าง อุษณีษะนูน รัศมีหักหายไปแล้ว พระขนงวาดเป็นวงโค้งหัวพระขนงจรดกันโดยต่อเนื่องลงมาเป็นสันโด่งองพระนาสิก
                ชายจีวรหรือสังฆาฎิที่จีบทบกันเป็นริ้วเป็นแบบอย่างพิเศษ ปรากฏในช่วงเวลาสั้น ๆ โดยอาจมีต้นแบบจากพระพุทธรูปนาคปรก หล่อด้วยสำริด พบที่อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฏร์ธานีพระพุทธรูปองค์มีศักราชระบุว่าหล่อขึ้นใน พ.ศ. 1834 แบบอย่างพิเศษของชายจีวรได้พบที่พระพุทะรูปลีลาพระพักตร์รูปไข่ ปั้นด้วยปูนแบบนูนสูง  ที่วัดพระศรีมหาธาตุเชลียง จัดอยู่ในพระพุทธรูปหมวดใหญ่ สร้างขึ้นราวปลายพุทธศตวรรษที่ 19 พระพุทธรูปเดียวกัน หล่อจากสำริด จากวัดกอก น่าน พระพุทธรูปประทับนั่ง พระหัตถ์แสดงปางมารวิชัย  มีชายจีวรจีบทบเป็นริ้วเช่นกัน แสดงว่าชายจีวรเช่นนี้มีอยู่ทั่งที่พระพุทะรูปของวัดช้างล้อม และพระพุทธรูปหมวดใหญ่ด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น